วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โมรอคโคที่ 2 ภาคที่ 2 การเดินทางสุดผืนทราย


โมรอคโคที่รัก  ภาคที่ 2  การเดินทางสุดผืนทราย 

15-23  ตค  2559  




ทริปข้ามปีสำหรับคนงบน้อยเผื่อเวลาให้เก็บเงินไปตามฝัน

Trip in Morocco Day

วันที่ 1  จากสนามบินคาซาบลังคา  แล้วพักที่คาซาบลังคา 1 คืน
วันที่ 2  คาซาบลังคา –ราบัติ –เมคเนส
วันที่ 3  เมคเนส – วูลูบิลิส – เฟส
วันที่ 4  เฟส  ทัวร์ตัวเมือง  ในช่วงเช้า แล้วบ่ายมุ่งสู่เขตทะเลทราย
วันที่ 5  เมอร์ชูก้า   นอนแคมป์ ขี่อูฐ
วันที่ 6  เช้าจากแคมป์ ขี่อูฐกลับโรงแรม แล้วพักโรงแรม1 คืน (ทัวร์ออฟโรดทะเลทราย จ่ายแยกหน้างาน)
วันที่ 7  ทอร์ดด้าจอร์จ  -  หุบเขากุหลาบ -  วอร์ซาเซท
วันที่ 8  วอร์ซาเซท  - อิทเบน ฮัดดู แคชบาร์ เมืองมรดกโลก  -  มาราเกช
วันที่  9  มาราเกช    ช่วงเช้า บ่ายแล้วกลับสนามบินคาซาบลังคา
วันที่  10   ถึงไทย  

โดยสถานที่กวางอาจปรับเปลี่ยนทีหลังตามวันเวลาเดินทางเพราะต้องรอดูตั๋วเครื่องบินว่าจะได้เวลาไหน ถึงตอนไหน  มีเวลามากน้อยเพียงใด ก็จะจัดปรับเปลี่ยนสถานที่ตามสมควรค่ะ  

เป็นทริปลำบากนะคะ  แบบไปกันเอง จ่ายกันเองบางส่วนหน้างาน อาจจะไม่สะดวกสบายเท่าไร  จึงขอให้สมาชิกทำความเข้าใจก่อนไปด้วย  กวางไม่ขอรับคนขี้บ่น ขี้เหวี่ยงขี้วีนนะคะ   เพราะไปแล้วต่างคนต่างเหนื่อยจึงขอให้สมาชิกอดทนและแสดงออกอย่างสุภาพเพื่อการเดินทางที่ราบรื่นค่ะ   

****ทริปไม่รวมตั๋ว   27000  บาท   โดยเป็นค่ารถ ค่าโรงแรม ค่าอาหารบางมื้อ ค่าอูฐ ค่าไกด์และคนขับรถ รวมทั้งค่าทิปต่างๆ 

****ราคาทริปไม่รวมอาหารบางมื้อ และเครื่องดื่ม  และค่าเข้าชมบางส่วนค่ะ  โดยให้สิทธิ์สมาชิกเลือกจ่ายเองได้ในส่วนนี้เพราะ หิวไม่พร้อมกัน  ชอบไมเ่หมือนกัน  อยากดูอยากชมไม่เหมือนกัน  ใครอยากประหยัดสามารถพกอาหารไปเองได้  ไม่กินไม่เสีย ไม่ดูไม่เสียค่ะ   โดยส่วนนี้กวางใช้แบบประหยัดเป็นค่าอาหาร ค่าเข้าชมบางอย่าง  และของฝากจุ้กจิ้ก  ประมาณ  4000++  ค่ะ   
ปล.  ใครชอบช๊อป  ชอบกิน ชอบดื่ม  ก็เตรียมเงินคำนวณไปเผื่อส่วนนี้ด้วยค่ะ

****ส่วนตั๋วเครื่องบินเมื่อได้ราคา ก็จะแจ้งสมาชิกทันที  ใครสะดวกพร้อมก่อน จองก่อน โดยจะจองเองหรือฝากจองก็ได้ค่ะ     หากใครไม่พร้อมสามารถจองทีหลังได้ โดยราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวันและเวลาเที่ยวบินค่ะ   คร่าวๆ จะอยู่ที่  27000+  ถึง  33000++   ค่ะ โดยประมาณ





วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วีซ่าโมร๊อคโค


การยื่นขอวีซ่าประเทศโมร๊อคโค

อ่านข้อมูลจากเวปไซต์สถานทูฒได้ที่
http://www.moroccoembassybangkok.org/Tourismthai.htm

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่า


1 แบบฟอร์มขอวีซ่าต้องกรอกรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ ให้ครบถ้วน โหลดจากหน้าเว๊ปสถานฑูตได้ค่ะ


2 ส่วนเอกสารอย่างอื่น ไม่ต้องเซ็นรับรองสำเนาใด ๆ ทั้งสิ้น

3 การไปยื่นถ้ายื่น ท่องเที่ยว 3 เดือน ไม่ต้องไปเองได้ค่ะ ทำหนังสือมอบอำนาจไป ให้ใครไปยื่นก็ได้

4 ค่าธรรมเนียม 825 บาทค่ะ ลดลงจากที่เขียนไว้   (อยู่ที่อัตราแลกเปลี่ยนค่ะแต่ละครั้งที่ไปอาจจะ

ไม่เท่ากัน แต่คร่าวๆ จะอยู่ในเกณฑ์ 800++ บาท ค่ะ

5 เวลารับยื่นเอกสาร คือตั้งแต่ 9.30 - 12.00 ยื่น 1 วัน แล้วนัดรับวีซ่าอีก 10 วันทำการ โดยวันนัด

จะนัดรับประมาณ 15.00 น






การเดินทาง


อยู่อาคารสาธรซิตี้ชั้น 12 ไปรถไฟฟ้าBTS ลงช่องนนทรี เดินทางออก 5 ข้ามแยกไป สังเกตฝั่ง ธ.ยูโอบี




ไปทางอาคารสาธรซิตี้ มี ธ.กรุงเทพ อยู่ด้านล่างข้างหน้า สังเกตุง่าย แต่ไม่มีป้ายใหญ่บอกชื่ออาคาร

ที่ชัดเจน ต้องเดินไปจนถึงประตูทางเข้า จึงจะเห็นชื่ออาคารค่ะ

เข้าไป แลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ ที่ฟร้อนท์ด้านหน้าเลย เค้าจะให้บัตร เพื่อใช้เข้าอาคาร เดินขึ้นบันไดเลื่อน


จะแบ่งฝั่งชั้น 4-16 ด้านขวามือ สูงขึ้นไปอยู่ซ้ายมือ เราไป ชั้น 12 เดินเลี้ยวขวา




ใช้บัตรที่แลกมา เปิดประตูผ่านไปขึ้นลิฟท์ ออกจากลิฟท์เลี้ยวขวา อยู่ห้องริมสุดเลย ประตูไม้





มีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่หน้าห้อง ลงชื่อแล้วเปิดประตูเข้าไป ยื่นเอกสาร จบ กลับทางเดิม



เอกสาร


1 แบบคำขอวีซ่า ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.moroccoembassybangkok.org/visa.html.pdf
 
จะกรอกเองด้วยลายมือตัวบรรจง หรือพิมพ์ก็ได้


วิธีการกรอกใบคำร้อง



                                                                             
ใบคำร้องแผ่นที่ 2




ปล. สถานฑูตค่อนข้างเยอะเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร  เพราะการทำวีซ่าท่องเที่ยวไม่ยาก แต่เขาจะให้ความสำคัญกับเอกสารมากๆ   จึงควรเตรียมไปให้เรียบร้อยค่ะ เพราะไม่งั้นจะต้องเสียเวลาไปอีกวันแน่ๆ อิอิ



2 รูปถ่าย ขนาด 1.5 นิ้ว หรือ 3 x4 ซม จำนวน 2 รูป พื้นหลังสีขาว ห้ามใส่เสื้อขาวหรือเสื้อสีอ่อนถ่ายรูป

3 พาสปอร์ต พร้อมสำเนา อายุเกิน 6 เดือน

4 สำเนาบัตรประชาชน พร้อมคำแปลภาษาอังกฤษ (แม้เป็นรุ่นใหม่ก็ต้องทำแปลมาด้วยไม่ต้องรับรองการแปล)

น้องแหม่มไปทำมา ราคาแปล 500 บาท ค่ะ (แพงโครต อิอิอิ)
และหลังจากที่สอบถามสถานฑูตแล้ว เราสามารถแปลบัตรประชาชนเองได้ค่ะ โดยใช้แบบฟอร์มตามนี้ได้เลยค่ะ สร้างไฟล์ขึ้นมาแล้วพิมพ์ข้อมูลเราลงไปเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องนะคะ


บัตรประชาชนแบบแปลเป็นภาษาอังกฤษ





5 หนังสือรับรองสถานะการเงิน 1 ฉบับ ที่ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อ รายละเอียดเงินคงเหลือธนาคาร

ลงนามรับรอง เป็นภาษาอังกฤษ

ปล. น้องแหม่มไปทำมีเงินในบัญชี 9 หมื่นบาท แต่เราสามารถเอาเงินไปใส่ก่อน แล้วไปขอหนังสือ

รับรองที่ธนาคารออกเสร็จแล้ว ค่อยถอนออกก็ได้ค่ะ

6 หนังสือรับรองการทำงาน ภาษาอังกฤษ ระบุ ชื่อ ตำแหน่ง ระยะเวลาการทำงาน ระยะเวลาการเดิน

ทางในโมร๊อคโค และเงินเดือน กรณีเป็นเจ้าของบริษัท ให้ยื่นหนังสือจดทะเบียนบริษัท 

พร้อมคำแปลภาษาอังกฤษด้วย กรณีพิมพ์หนังสือรับรองการทำงานเอง ต้องมีตราปั๊มด้วยค่ะ

7 เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน

8 เอกสารการจองที่พัก โรงแรมตามจำนวนวันเดินทาง กรณีได้รับเชิญ จะต้องยื่นจดหมายผ่านการ

รับรองจากกระทรวงการต่างประเทศ ในประเทศโมร๊อคโค เท่านั้น (กรณีผู้เชิญเป็นบุคคล ให้แนบ

สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เชิญด้วย)

9. ถ้าฝากผู้อื่นไปยื่นแทน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจเป็นภาษาอังกฤษแนบไปด้วยค่ะ ว่าให้ใครเป็นผู้ดำเนินการแทน

และเอกสารอื่นๆ เช่น

 -    สำเนาใบสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะ (ถ้ามี)/(แปลเป็นภาษาอังกฤษ)
 -    สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)/(แปลเป็นภาษาอังกฤษ)
 -    สำเนาใบสูติบัตร (กรณีเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี)/(แปลเป็นภาษาอังกฤษ)
 -    หนังสือรับรองจากทางโรงเรียน (ภาษาอังกฤษ)
 -    หนังสือยินยอมจากบิดา และ มารดา (ในกรณีที่บิดา หรือ มารดา หรือ ผู้ปกครองตามกฎหมายไม่ได้เดินทางไปด้วย หรือ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเดินทาง/ออกโดยทางอำเภอ)/(เด็กอายุไม่ถึง 20 ปี)/(แปลเป็นภาษาอังกฤษ)

ปล. ข้อมูลเมื่อวันที่ 26 กพ 2557 จากน้องแหม่ม ที่เพิ่งไปทำมาผ่านแล้วเรียบร้อยค่ะ ขอบคุณมากๆ ที่ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการเดินทางของเรากับ ทริปโมร๊อคโคที่รัก


10 ใบประกันการเดินทาง สามารถทำออนไลน์ได้จากเวปนี้ .
http://www.axa.co.th/311/th/retail-insurance/travel/smarttraveller-plus
โดยเลือกวันเดินทางไปกลับ สมัครออนไลน์ ชำระเงินแล้วกรมธรรม์จะจัดส่งให้ทางอีเมลล์
ปริ้นแนบไปตอนขอวีซ่า


ปล.เมื่อก่อนวีซ่าโมรอคโคไม่ต้องใช้ประกันการเดินทาง แต่เพิ่งเปลี่ยนกฎมาเมื่อเดือน มิย นี้เองค่ะ
เนื่องจากพี่แอนเพิ่งไปมาเมื่อ มิย 57 นี่เอง ยืนยันมาว่าต้องใช้ด้วย แต่เธอไม่ได้รู้มาก่อน จึงต้องไปซื้อประกันใกล้ๆสถานฑูตโมรอคโค โดนไป 1200 บาท ค่ะ คุ้มครอง 30 วัน










                                หลังจากยื่นเอกสารเสร็จแล้ว  เขาก็จะให้ใบนัดไปรับพาสปอร์ตคืน



หน้าตาวีซ่าที่ได้รับก็ประมาณนี้ค่ะ  อิอิอิ  เป็นอันเสร็จพิธี





ปล.  แบบฟอร์มการแปลบัตรประชาชน ทั้งแบบธรรมดาและสมาร์ทการ์ด 
กวางลองทำตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ แปลกันเองได้ค่ะ 
โดยอีเมลล์มาขอแบบฟอร์มได้ที่ 
kwang_9430@live.com    แล้วกวางจะส่งให้ทางเมลล์ค่ะ 


สำหรับท่านที่ไปกันเป็นกลุ่มสามารถมอบอำนาจให้ตัวแทนไปได้ค่ะ 
โดยใช้หนังสือมอบอำนาจเป็นภาษาอังกฤษ  ใช้ข้อความดังภาพข้างล่างนี้ค่ะ
สำหรับการมอบอำนาจในการยื่นวีซ่า 
โดยเปลี่ยนข้อมูลของเราตรงเส้นสีน้ำเงินค่ะ  นอกนั้นก็ใช้เหมือนกัน
















วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แบกเป้ตามใจฉัน โมร๊อคโคที่รัก เธอกำลังขโมยหัวใจฉันไป


“โมรอคโค” ดินแดนบนสุดขอบทวีปแอฟริกาตะวันตก ที่มีกลิ่นอายแห่งชาวแขกมัวร์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ ชนพื้นเมืองชาวแอฟริกันเบอร์เบอร์ ที่มีรูปแบบวัฒนธรรมผสมผสานกับตะวันตก ด้วยระยะทางที่ถูกคั่นด้วยช่องแคบยิบรอลต้า ห่างจากยุโรปเพียง14 กิโลเมตร 




โมร๊อคโค ค่ะ ไปนอนดูดาวซาฮาร่า แบบ เบา เบา ไปเฟซ ไปมาราเกช 
คาซาบลังคา และ อื่นๆเท่าที่ไปได้ ประมาณ 9-10วัน




อยากไปแล้วค่ะโมร๊อคโค ตอนนี้ขอดูราคาตั๋วก่อน ว่าจะสู้ที่ราคาเท่าไรดี เสียดายตอนแรก
ของอียิปต์แอร์ 29000++ เอง อิอิอิอิ แต่รอบนี้ถ้าเจอ จะไม่พลาดแล้วค่ะ อยากไปโมร๊อคโคที่สุด 
ดินแดนอาหรับ แขกมัวร์ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายทางประวัติศาสตร์
 และอารยธรรมแบบอาหรับ บ้านเมืองสุดแสนคลาสสิค แล้วไหนจะทะเลทรายอีก
 โอ๊ยยยยยยย อยากไป อยากไป




มาแว้วววว จ้า ขอปัดฝุ่นอีกครั้งกับทริปนี้ เพื่อนนักเดินทางท่านใดสนใจ เตรียมเเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับดินแดนอาหรับ เที่ยวชมเมือง คาซาบลังคา มาราเกช เฟซ แม๊กเนส 
และขี่อูฐท่องทะเลทรายซาฮาร่า อร๊ายยยยยยยยย อยากไปวันนี้เลยอ่าาาาาา


เราทำแผนทีกำหนดเป้าหมายคร่าวๆมาแล้ว  ว่ามีที่ไหนเป็นเป้าหมายหลักสำคัญสำหรับทริปนี้   เพราะถนนหนทาง และความคดเคี้ยวของเส้นทางในบางสถานที่  นั่นอาจจะทำให้เราล่าช้าพอสมควร  อาจจะมีบางช่วงที่เราคิดว่าน่าจะเช่ารถเพื่อความสะดวกและคล่องตัว  แต่จำเป็นต้องดูจำนวนสมาชิกก่อน ว่ามีกี่คน  จะได้จัดแผนให้สัมพันธ์กับเิงินในกระเป๋า  เพราะเราต้องการทำทริปประหยัด แต่สามารถไปได้จริง  


7-8 จุดที่นี่  คาดว่าจะใช้เวลาราวๆ  7-10  วันเป็นอย่างน้อย   แม้หนทางข้างหน้า  อาจจะไม่ได้เป็นอย่างเราที่หวังไว้แต่สิ่งที่สำคัญ  ก็คือการที่เราได้เรียนรู้และแสวงหาตัวตน  ได้เรียนรู้ของการมีอยู่จริงบนเส้นทางแห่งมิตรภาพ    ได้พบอุปสรรคนานัปการ ที่จะสอนให้เราแข็งแกร่งและอดทนมากขึ้น  
งั้น ที่ใครๆ เคยบอกเราไว้   โลกนี้ไม่มีอะไรน่ากลัว  นั้นท่าจะจริง

 

แผน  17-25  ตค 57   ทริป  9  วัน 


Day 17    Meet you in Casablanca airport and  Drive to the Hotel Over Night 

Day 18    Casablanca - Rabat - Meknes

Day 19    Meknes - Vulobilis - Fes  

Day 20    Fes - Tour of the Citiy in the Morning After Lunch Drive

               to Midelt Midway to desert. 

Day 21    Midilet - Rachidia - Arfoud - Merzouga Night in camp

Day 22    Merzouga - Tour in Erg Chibbe Night in Riad

Day 23    Merzouga - Todra Gorge - Rose Valley - Ouarzazate
Day 24    Ouarzazat - Ait Ben Hadou Kasbah - Marrakech 
Day 25    Marrakech Tour of the City Then drive to the airport.


ปล. เป็นทริปแบบประหยัดนะคะ ไปกันเอง ไม่ใช่ทัวร์ เพราะฉะนั้นไม่มีคนบริการ  ทุกคนดูแลตัวเองเป็นหลัก  กินง่าย นอนง่ายไม่เหวี่ยงไม่วีนไม่เรื่องมากนะคะ  กวางรับอาสาเป็นผู้ดูแลทริปนี้ไปกันแบบพี่แบบน้อง  สำหรับคนที่ชอบผจญภัยค่ะ  

วีซ่าสามารถยื่นเองได้ค่ะ ศึกษาได้จากบล๊อคที่กวางทำไว้ให้แล้วได้เลย หรือใครจะฝากยื่น ขอเป็นเดือนสิงหาคมนะคะ จะยุติทุกอย่าง เอกสารพร้อมค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า จะแจ้งอีกทีนะคะ

ทริปประหยัดนะคะ อ่านให้เข้าใจก่อน  อาจจะไม่สะดวกสบาย ที่พัก อาหาร  รถ สถานที่  อาจจะไม่เป้ะ ไม่เพอร์เฟค เพราะเป็นทริปแบบประหยัด    อาจะทั้งชอบใจไม่ชอบใจ  ก็ขอให้สมาชิกอดทนและแสดงออกอย่างสุภาพ เพื่อการเดินทางที่ราบรื่นและสนุกนะคะ    ไม่รับคนขี้วีนขี้เหวี่ยงนะคะ ดูแลตัวเองเลยส่วนนึง ข้าวของไม่ต้องเอาไปเยอะ ไม่มีคนช่วยแบกนะคะ

ไม่เข้าใจสอบถาม นะคะ 089-4504973 หรือติดตามการอัพเดตได้จากหน้าเพจดอกไม้ทะเลทรายhttps://www.facebook.com/DxkmiThaleThrayDesertFlower

หรือศึกษาวีธีการทำวีซ่าโมรอคโค ได้ที่
http://morocco9430.blogspot.com/2014/02/blog-post.html




16 ตค 57  ช่วงค่ำ  สนามบินสุวรรณภูมิ

เรานัดเจอกันที่สุวรรณภูมิ ในตอน  3-4  ทุ่ม เพื่อเช็คอินกันที่เคานเตอร์ อียิปต์แอร์  เพื่อที่จะบินในตอน
00.55  ซึ่งเป็นเวลาสากลของวันที  17  ตค  57   สมาชิกต่างทยอยมา  บางคนยังไม่เคยพบกัน 
บางคนพบกันมาแล้วในทริปก่อนๆ หรือหลายๆ ทริป   บางคนคุยกันมานานแล้วเพิ่งมาเจอกัน
รวมกลุ่มได้แล้วก็เช็คอินเตรียมตัวเดินทาง   อียิปต์แอร์ให้น้ำหนักค่อนข้างเยอะ คือ  46  กิโลกรัม ต่อคน
เริ่ด คร่าาา    ได้ท่านละ  2 ใบ  ใบละ  23 กิโลกรัม   เก๋ๆ  อิอิอิอิ    ใช้เวลาในการบิน 8-10 ชม
.


มีแฟนคลับมาส่งด้วยนะคะเนี่ย



หลังจากเช็คอินเสร็จ  ผ่าน ตม. ขาออก แล้วไปขึ้นเครื่อง ออกจากสนามบินได้ไม่นาน
อาหารมื้อแรกก็ถูกเสริฟมาค่ะ เป็นไก่ กับข้าว อาหารทุกอย่างของสายการบินนี้
ฮาราลทุกอย่าง  เริ่ดดดด    ที่สายการบินอียิปต์แอร์ เสริฟ ค่อนข้างดึก  เพราะเขาจะเสริฟตาม
เวลาท้องถิ่นของเขา ซึ่งเป็นมื้อค่ำ  เพราะอียิปต์ช้ากว่าเรา  ประมาณ 5 ชม น่ะจ้าาาา
อิ่มแล้วจะเหลืออะไร  ก็หลับต่อสิคร้าาาา    พวกเราเล่นเก้าอี้ดนตรีกับฝรั่งกัน
เพราะเนื่องจากบนเครื่องมีที่ว่างค่อนข้างเยอะ  ถ้าเราช่วงชิง เบาะ 3  แถว  มาได้ล่ะก็
สวรรค์ทรงโปรดเลยนะ  เพราะนั่นหมายถีงเราจะหลับอย่างสบายเหยียดยาว
เลยเชียงแหละ  เราชิงมาได้ 1 แถว   สบายละตรู  อิอิอิอิ



ฝันยังไม่จบดี  เครื่องก็เตรียมแลนดิ้ง สู่กรุงไคโร เพื่อเปลี่ยนเครื่องต่อไปยังเมืองคาซาบลังคา
เมืองท่าสุดโรแมนติก ของ ประเทศ โมรอคโค  เมืองริมขอบมหาสมุทรแอตแลนติก
อันมีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งเป็นเมืองในตำนานของภาพยนต์ชื่อดังในอดีต


สาวๆ  ชอบใจกันใหญ่กับสินค้าหลากหลาย ที่ชวนให้ควักกระเป๋าเสียเหลือเกิน
มีเวลาต่อเครื่องกัน 4 ชม.  เดินดูข้าวของกันให้ฉ่ำไปเลยนะ 


หลังจากได้เวลา  เราก็ไปขึ้นเครื่องกันต่อ สนามบินไคโร  ส่วนนึงกำลังปรับปรุงก่อสร้าง
แต่ตรงหน้าประตูเกท จะไม่เปิดให้เขาจนกว่าจะได้เวลา  พวกเราจึงนั่งรอตากแอร์
แถวๆ ร้านขายของฝากดีกว่า  แล้วค่อยไปประตูขึ้นเครื่อง


ระหว่างรอผ่านประตูขึ้นเครื่อง  ที่นี่ตรวจยิบย่อย  หลายด่านมากค่ะ 
แม้กระทั่งด่านสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง  เขาก็ยังให้ทิ้งของเหลวอยู่ดี 
ซื้อน้ำซื้อเครื่องดื่มมากัน เลยต้องทิ้งกันหมดเลย  งุงิ


จากไคโร เราจะบินสู่คาซาบลังคา ประมาณ 4 ชม 
ได้ใบผ่าน ตม. มาละ  หน้าตาประมาณนี้



17  ตค 57  คาซาบลังคา


ว้าววว   มาถึงแล้ว เมืองคาซาบลังคา ตื่นเต้นจัง 



จอดแล้ว  เย้ๆๆๆๆๆ


เราไปเข้าเมืองกันเถอะนะ


หลังจากที่กัปตันพาพวกเราร่อนลงอย่างปลอดภัย  ก็ไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง
แบบโบราณ  เจ้าหน้าที่ยังเขียนมืออยู่ไรงี้  คนนึงรับคนถึง 3-4 แถว  บ้าไปแล้ว
สรุปกว่าจะเสร็จ  ผ่านไป 4 ชม  พวกเราก็เพลีย ออกมารับกระเป๋า   รถบัสที่นัดไว้
หนีกลับไปแล้วม้างงงงงง


หลังจากพบรถที่นัดไว้  ทักทายกันตามประสา  เราก็พาสมาชิกเข้าเมืองกัน
คืนนี้เราจะนอนที่คาซาบลังคา 1 คืน  ตัวเมืองห่างจากสนามบินไปประมาณ
30-45  นาที  ตัวเมืองค่อนข้างเก่า ไม่ได้ทันสมัยมากอย่างที่เราคิดไว้เท่าไร
อาจจะด้วยเพราะ ผู้คนยังรักษาวัฒนธรรมเดิมล่ะมั้ง  
หรือจริงๆ แล้ว พวกเรายังเข้าไปไม่ถึงจุด...... 


เข้าโรงแรมที่จองไว้  เก็บกระเป๋า เตรียมตัวทานอาหารเย็น  โรงแรมแนะนำ
มาร้านนึงพาพวกเราไปส่งอีกตะหาก


ร้าน ETOILE  RESTURANT   เป็นร้านอาหารโมรอคกันที่ขึ้นชื่อของที่นี่
แต่ดูจากสภาพร้าน และราคาอาหารที่ค่อนข้างสูง  
เราว่าเขาคงขายให้นักท่องเที่ยวอย่างเดียวซะล่ะม้าง


เราเลือกสั่ง คูส คูส  และ ทาร์จีน  โดยที่ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อแพะ  แกะ ไก่ และ วัว
เราลองเนื้อแกะดีกว่า


คูส คูส

ข้าวกะไก่

ทาร์จีน


                                                         อาหารมาแล้ว ก็ซัดกันเลยจ้าาา


หลังจากชำระเงิน ก็ตัวเบาตามๆ กันไป อิอิอิ  มื้อแรกน่ะ ในโมรอคโค
ขากลับเดินกลับโรงแรมเอง  ว้าย มีร้านดอกไม้ด้วยล่ะ  สวยดีนะ  แต่ทรงมันแปลกๆ
เราถามเพื่อนชาวโมรอคโค  ว่าไว้ใช้สำหรับงานศพเหรอ
เขาหัวเราะ ก๊ากก  บอกงานแต่งจ๊ะเธอ  อิอิอิ
ปล่อยไ่ก่ ตัวเบ้อเริ่ม


ก็มันเหมือนนินา  เนอะ


คืนนั้น ท้องอิ่มแล้วก็กลับมานอนพักผ่อนโรงแรม เพราะหลังจากนั่งเครื่องมา 15 ชม  รอ ตม 4 ชม
เพลียฝุดๆ  หลับกันสบายเลย  นัดสาวๆ ในตอนเช้า 8 โมง เพื่อเตรียมตัวเที่ยวในคาซาบลังคา


18 ตค 57  คาซาบลังคา


เอ้า เช้านี้ สาวๆ พร้อมแล้วค้าบบบ


เราออกจากโรงแรมกันในช่วง  8-9 โมงเช้า เพราะมัสยิดฮัสซัน เปิดในตอน 10 โมงเช้า


เราเลยไปเดินเล่นริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกกัน  เช้านี้อากาศเย็นพอสมควร
คาดว่าฝนเพิ่งจะตกแล้วหยุดไป   ถนนเส้นนี้เป็นเหมือนสถานที่พักผ่อน เพราะเช้าๆ 
จะมีคนมาวิ่งออกกำลังกาย เดินเล่น  ขณะที่ร้านค้า โรงแรมตั้งเรียงรายมากมาย
แต่ที่โมรอคโค สถานบริการต่างๆ ค่อนข้างเปิดทำการกันสายๆ  จะด้วยเหตุผลกลใด
ก็ไม่ทราบได้  แต่เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตามนะ


ภายในบริเวณริมชายฝั่ง  จะมีร้านค้า ร้านอาหาร  คาเฟ่เครื่องดื่ม
โรงแรม  สปอร์ตคลับ ไว้รองรับนักท่องเที่ยว


สองหนุ่มประจำทริปเรา  อิอิอิ   


พอได้เวลา เราก็ไปต่อกันที่  มัสยิดฮัสซันที่ 2  เป็นมัสยิดที่เปิดให้เข้าชม
ภายในได้  โดยมีค่าเข้าอยู่ที่  12  ยูโร  


ภายในก็กว้างขวางโอ่โถง อลังการอยู่   เปิดประตูไปทางด้านหลังสามารถชมความยิ่งใหญ่
ของมหาสมุทรแอตแลนติคได้  เพราะที่นี่ถูกสร้างอยู่บนการถมที่แล้วสร้างยื่นออกไปในทะเล
ด้านในจะถูกจัดให้เป็นที่ละหมาด  ชั้นบนและชั้นล่าง และยังมีชั้นใต้ดินอีกด้วย


คนท้องถิ่นเล่าให้เราฟังว่า  มัสยิดแห่งนี้ นอกจากกษัตริย์จะเป็นผู้สนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายแล้ว
ส่วนนึงยังได้มาจากชาวโมรอคโคทั่วประเทศ ที่ร่วมบริจาคสร้างด้วย


มัสยิดนี้ จะมีไกด์แต่ละภาษา คอยบรรยายกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย  แต่พวกเราไม่ได้เข้ากลุ่ม
เลือกที่จะเดินชิวๆ ถ่ายรูป ซึมซับบรรยากาศกันเองดีกว่า  
ไกด์มีทั้งภาษาเยอรมัน  ฝรั่งเศษ  สเปน  และอังกฤษ  ส่วนภาษาอื่นๆ  
นอกจากนี้ไม่แน่ใจค่ะ  เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในโมรอคโค 
 นั้นมักจะมาจากประเทศทางฝั่งยุโรปค่ะ  


























ขั้นตอนการทำวีซ่า 

สามารถเตรียมเอกสารและไปยื่นได้ตามนี้ค่ะ

http://morocco9430.blogspot.com/2014/02/blog-post.html